“Gig Economy” เทรนด์ของคนทำงานยุคใหม่ กับผลกระทบต่อระบบจ้างงานที่กำลังจะเปลี่ยนไปในอนาคต!

        เมื่อเอ่ยถึงคำว่า “Gig Economy” หลายคนอาจจะยังงงๆ อยู่ว่ามันคืออะไร แต่หากบอกว่ามันคืองานในลักษณะฟรีแลนซ์ เชื่อว่าหลายคนคงจะต้องร้องอ๋อแน่นอน! โดยในปัจจุบัน Gig Economy ได้เข้ามามีบทบาท และเติบโตขึ้นอย่างมาก ด้วยปัจจัยอย่าง โลกออนไลน์ที่ทลายกำแพงในการทำงานลง หรือคนรุ่นใหม่ที่มีทัศคติในการทำงานที่ไม่เหมือนเดิม ซึ่งส่งผลกระทบต่อระบบจ้างานที่เปลี่ยนไป และในวันนี้ Daywork  จะขอพาทุกคนไปทำความรู้กับ Gig Economy เทรนด์ของคนทำงานยุคใหม่ ที่กำลังจะเปลี่ยนแปลงอนาคตไปพร้อมๆ กัน

 

        Gig Economy หรือ Gig Worker คือ เทรนด์การทำงานรูปแบบใหม่โดยเน้นการจ้างงานในรูปแบบชั่วคราว สัญญาจ้าง ฟรีแลนซ์ หรือแม้แต่คนที่ทำธุรกิจส่วนตัวแบบที่ไม่มีลูกน้อง ก็อยู่ในคำจำกัดความของ Gig Economy ซึ่งตรงกับคำแสลงที่ Gig หมายถึงรูปแบบชั่วคราว และปัจจุบันก็กำลังเป็นแรงงานสำคัญ และกลายเป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจแห่งอนาคต

 

           สำหรับในประเทศไทย ถือว่าโรคโควิด 19 เป็นตัวการสำคัญที่ เร่งการเปลี่ยนแปลงต่อโครงสร้างตลาดแรงงานไทย เนื่องจากการประกอบอาชีพอิสระ นับเป็นทางเลือกทางรอดหนึ่งของแรงงานในยุคโควิด 19 ที่ธุรกิจลดการจ้างแรงงานลง และผลักดันให้เกิดการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งใหม่ หุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามาแทนที่แรงงานคน เพื่อให้กระบวนการผลิตไม่หยุดชะงักในช่วงของมาตรการ Social Distancing รวมถึงเทรนด์แรงงานจบใหม่ ก็มีแนวโน้มที่จะประกอบอาชีพอิสระกันมากขึ้น เพราะต้องการอิสระ และมีความยืดหยุ่นในการทำงาน และที่สำคัญคนรุ่นใหม่ยุคนี้ไม่นิยมในการเข้าสู่ระบบงานประจำ ทำให้มีการประเมินว่าแรงงานประเทศไทยยุคต่อไปจะเป็น Gig เพิ่มมากขึ้นตามการพัฒนาของสังคม และเทคโนโลยีด้วย

           โดยจะเห็นได้จากการเปิดตัวเว็บไซต์หางานสำหรับชาวฟรีแลนซ์โดยเฉพาะ อย่าง Fastwork และ Freelancebay แพลตฟอร์มออนไลน์ใหม่ๆ เช่น Lalamove FindMaid และ Helpster ก็เป็นส่วนช่วยให้ Gig Worker ในไทยเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว

 

       สำหรับคนที่เป็นนายจ้าง รวมไปถึงบริษัทที่มีการจ้างพนักงาน อาจต้องหันมาพิจารณาสัญญาจ้างแบบระยะสั้น ขยายอายุเกษียณ หรือผ่อนปรนในเรื่องเวลาการทำงาน เพื่อให้สอดรับกับรูปแบบการใช้ชีวิตของคนยุคปัจจุบัน ตัวอย่างเช่น ให้โควตาทำงานจากที่บ้านหนึ่งวันต่อวีค และปรับการคิดเวลาทำงานเป็นจำนวนชั่วโมงแทนเวลาการเข้า-ออกงานเป๊ะๆ แบบเก้าโมงเช้าถึงห้าโมงเย็น ซึ่งบริษัทหลายแห่งในไทยก็นำสองแนวคิดนี้ไปใช้จริงแล้ว

 

        ส่วนคนทำงาน ไม่ว่าปัจจุบันจะเป็นมนุษย์เงินเดือน เป็นฟรีแลนซ์ หรือเป็น Gig Worker สิ่งสำคัญ คือต้องพัฒนาทักษะที่ตัวเองมีอยู่ให้เชี่ยวชาญ มีความรู้รอบด้าน เพราะไม่ว่าในอนาคตเราจะเปลี่ยนไปทำงานในรูปแบบใด สิ่งสำคัญที่จะทำให้อยู่รอดได้คือความพร้อมที่จะเผชิญกับความไม่แน่นอนอยู่เสมอ

 

บทสรุป

           และแน่นอนว่าการมาถึงของ Gig Economy ได้ส่งผลกระทบสู่ระบบการจ้างงาน โดยเฉพาะ HR ที่ต้องเตรียมพร้อมสำหรับการจ้างงานรูปแบบใหม่ รวมไปถึงกระบวนอื่นๆ หลังจากจ้างงานด้วย ซึ่งแตกต่างจากพนักงานประจำอย่างสิ้นเชิง จึงต้องมีการปรับความเข้าใจของบทบาทตัวเองใหม่ ปรับโครงสร้างการทำงาน และแผนให้เหมาะสมมากขึ้น ทั้ง

1. นิยามบทบาทการทำงานใหม่ : เพราะการทำงานแบบ Gig ไม่เหมือนพนักงานประจำ ฟรีแลนซ์ส่วนใหญ่อาจไม่เหมาะสมกับงานทุกงาน แต่นี่เป็นโอกาสที่ดีในการค้นหาผู้ที่มีความสามารถเฉพาะตัว เฉพาะทาง ผ่านการประกาศหางานที่ชัดเจนว่าเราต้องการงานอะไร ดีกว่าคนหนึ่งคนทำงานหลายอย่างเหมือนเมื่อก่อน

2. การประเมินที่เปลี่ยนไป : การประเมินผล Gig Worker ย่อมไม่เหมือนพนักงานประจำ การติดตามผลงานของฟรีแลนซ์ถือเป็นสิ่งที่ค่อนข้างใหม่ สิ่งสำคัญก็คือการติดต่อเพื่อนำข้อมูลแรงงานมาประเมินปัญหา แนวโน้ม หรือโอกาสในการจ้างงานครั้งต่อไป

3. เปลี่ยนนโยบายแรงงานเพื่อรองรับฟรีแลนซ์ : ฝ่ายทรัพยากรบุคคลจะต้องเป็นผู้นำในการสร้างนโยบายที่ให้ผลประโยชน์ สิทธิ และการคุ้มครองที่เหมาะสมแก่พนักงานชั่วคราวด้วย ไม่เฉพาะพนักงานประจำอย่างเดียว

4. วางตำแหน่งองค์กรเป็นเพียงทางเลือกหนึ่ง : องค์กรจะต้องวางตัวเองเป็นเพียงนายจ้างทางเลือกที่ไม่ผูกมัดสำหรับพนักงานชั่วคราว เนื่องจากพวกเขาต้องการอิสระ และสามารถทำงานได้หลายบริษัท

        โดยในอนาคตหากคนเริ่มที่จะปรับตัว และมองการทำงานแบบ Gig Worker มากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว การทำสัญญาจ้างงานอาจต้องเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย บริษัทอาจต้องปรับ % การรับพนักงานประจำลดลง 80%-100% เป็นสัญญาจ้างแบบไม่ประจำ เพื่อรองรับการจ้างรูปแบบใหม่ และวางแผนกำลังเพื่อให้ยืดหยุ่นต่อการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นตลอดเวลา อีกทั้งยังเป็นการเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อรองรับวิกฤติใหม่ๆ ที่อาจเกิดขึ้น เพราะบริษัทเองก็ไม่อาจแน่ใจได้ว่าตำแหน่งนี้ในบริษัทจะเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่ และยังคงจำเป็นต้องมีอยู่หรือไม่ รวมถึงตัวพนักงานเองก็อาจมองว่า หากรับจ้างเป็นชิ้นงานหรือช่วงเวลาสั้นๆ ก็จะมีเวลาพัฒนาตัวเอง สามารถจัดสรรเวลาในการทำงาน และใช้ชีวิตที่ดีกว่าด้วย

 

       มาถึงตรงนี้ เชื่อว่าคงมีคนเริ่มสนใจอยากทำงานแบบ Gig กันบ้างแล้วแน่ๆ สำหรับใครที่อยากลองเป็น Gig หรือองค์กรไหนที่กำลังต้องการ  Gig Worker อยู่ Daywork แพลตฟอร์มการจ้างงาน ที่ใช้เทคโนโลยี บวกกับข้อมูลที่มีอยู่ในระบบ และทีมงานในการสรรหา แมตชิ่งเพื่อเชื่อมต่อธุรกิจที่ต้องการพนักงานกับกลุ่มแรงงานที่พร้อมทำงาน ทั้งยังผ่านการคัดกรองอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้องค์กร หรือภาคธุรกิจต่างๆ สามารถแก้ปัญหาความต้องการแรงงานได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกันก็สามารถลดระยะเวลา และขั้นตอนในการจ้างงานได้ดีกว่าจากการจ้างงานในรูปแบบเดิม ก็พร้อมเป็นตัวกลางให้ทุกคนได้เจองานที่ใช่ และใช้ชีวิตในแบบที่ชอบ ด้วยการค้นหางานที่ง่าย รวดเร็ว ตรงใจ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ได้อย่างแท้จริง 

 

 

ติดตาม Daywork ได้ที่ช่องทาง

Facebook : www.facebook.com/daywork.th

Website : www.daywork.co

Linkedin : www.linkedin.com/company/daywork-thailand

Blockdit : www.blockdit.com/dayworkthailand