บริษัทอยากได้คนมีประสบการณ์ แล้วเด็กจบใหม่ควรเริ่มจากตรงไหน?

 

“ไม่มีประสบการณ์" เท่ากับ หมดสิทธิ์ได้งาน?

 

รับเฉพาะคนมีประสบการณ์ 2-3 ปีขึ้นไป ประโยคนี้กลายเป็นกำแพงใหญ่ที่ขวางทางเด็กจบใหม่หลายคน เมื่อเปิดหางานก็เจอแต่ข้อกำหนดที่ดูเหมือนไม่มีพื้นที่ให้คนเพิ่งเรียนจบ แล้วคำถามคือ… จะให้เริ่มจากตรงไหน ถ้าทุกที่ล้วนต้องการคนที่เคยทำงานมาก่อน

 

เป็นเรื่องตลกร้ายที่เด็กจบใหม่จำนวนมากต้องเผชิญ เราเรียนมาเกือบ 20 ปีเพื่อจะเข้าสู่ตลาดแรงงาน แต่กลับพบว่า ‘ใบปริญญา’ อาจไม่ได้มีน้ำหนักพอที่จะทำให้บริษัทสนใจเท่ากับ ‘ประสบการณ์การทำงาน’ แล้วเราจะฝ่ากำแพงนี้ไปได้อย่างไร?

 

เด็กจบใหม่ควรเริ่มจากตรงไหน?

• 1. เริ่มสะสมประสบการณ์ระหว่างเรียน
• 2. สร้างพอร์ตโฟลิโอให้ชัดเจน
• 3. เรียนรู้ทักษะที่ตลาดต้องการ
• 4. เริ่มจากงานพาร์ทไทม์หรือฟรีแลนซ์

 

 

ทำไมบริษัทถึงต้องการคนมีประสบการณ์?

 

ลองมองจากมุมของบริษัท ทุกองค์กรอยากได้คนที่สามารถเริ่มงานได้ทันที มีความเข้าใจพื้นฐานของงาน ไม่ต้องเสียเวลาสอนมาก และทำให้ธุรกิจเดินหน้าไปได้เร็วที่สุด ซึ่งเหตุผลหลักๆ ที่บริษัทต้องการคนมีประสบการณ์ ได้แก่:

 

• ลดเวลาในการฝึกอบรม: คนที่เคยทำงานมาแล้วมักรู้วิธีการทำงาน ไม่ต้องเริ่มจากศูนย์

• ความสามารถในการแก้ปัญหา: คนที่ผ่านการทำงานมามีแนวโน้มจะแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดีกว่า

• ความมั่นใจในการทำงาน: คนที่มีประสบการณ์มักกล้าตัดสินใจ และรับมือกับสถานการณ์ได้ดี

 

แต่นั่นไม่ได้แปลว่าเด็กจบใหม่ไม่มีทางได้งานเลย

 

เด็กจบใหม่ควรเริ่มจากตรงไหน?

 

1. เริ่มสะสมประสบการณ์ระหว่างเรียน

 

อย่ารอให้เรียนจบแล้วค่อยคิดถึงการทำงาน ใช้เวลาตอนเรียนมหาวิทยาลัยให้เป็นประโยชน์ เช่น

• ทำโปรเจกต์จริงร่วมกับบริษัท

• ฝึกงาน (Internship) ในสายงานที่สนใจ

• ทำกิจกรรมมหาวิทยาลัยที่ช่วยพัฒนา Soft Skills เช่น การทำงานเป็นทีม การบริหารโครงการ

 

 

2. สร้างพอร์ตโฟลิโอให้ชัดเจน

 

ในเมื่อไม่มีประสบการณ์ทำงาน ก็ต้องสร้างสิ่งที่แสดงความสามารถของตัวเองขึ้นมา

• หากเป็นสายครีเอทีฟ เช่น กราฟิกดีไซน์, คอนเทนต์, การตลาด ควรมีพอร์ตแสดงผลงาน

• หากเป็นสายเทคโนโลยี เช่น โปรแกรมเมอร์ หรือ Data Analyst ควรมี GitHub หรือโปรเจกต์ที่แสดงความสามารถ

 

 

3. เรียนรู้ทักษะที่ตลาดต้องการ

 

ปัจจุบันหลายอาชีพต้องการทักษะที่มหาวิทยาลัยไม่ได้สอนโดยตรง เช่น Digital Marketing, Data Analytics, Coding หรือ Soft Skills อย่างการสื่อสารและการแก้ปัญหา ลองเรียนรู้จากคอร์สออนไลน์ หรือทำโปรเจกต์ส่วนตัวเพื่อนำมาใช้ในการสมัครงาน

 

 

4. เริ่มจากงานพาร์ทไทม์หรือฟรีแลนซ์

 

การทำงานพาร์ทไทม์หรือฟรีแลนซ์ ไม่ใช่แค่เรื่องของรายได้ แต่เป็นโอกาสในการสร้าง ‘ประสบการณ์การทำงาน’ ซึ่งสามารถใส่ในเรซูเม่ได้จริง

• หากอยากทำงานด้านการตลาด ลองเริ่มจากรับจ้างทำโซเชียลมีเดียให้ธุรกิจเล็กๆ

• หากอยากเป็นนักเขียน ลองเขียนบทความลงบล็อกหรือ Medium

• หากอยากเป็นนักพัฒนาเว็บ ลองรับโปรเจกต์ฟรีแลนซ์เล็กๆ เพื่อสะสมประสบการณ์

 

งานพาร์ทไทม์และฟรีแลนซ์เหล่านี้ช่วยให้คุณมีประสบการณ์จริง แม้ว่าจะไม่ใช่งานประจำ แต่ก็ดีกว่าการไม่มีอะไรในเรซูเม่เลย

 

สรุปง่ายๆ คือให้ใช้ ‘งานพาร์ทไทม์’ เป็นบันไดไปสู่งานแรก ถ้าคุณเป็นเด็กจบใหม่ที่ยังไม่มีประสบการณ์ อย่าเพิ่งท้อ อย่าปล่อยให้เงื่อนไขของบริษัทมาขวางเส้นทาง ลองเริ่มจากงานพาร์ทไทม์ ฟรีแลนซ์ หรือฝึกงาน เพื่อสะสมประสบการณ์ให้ตัวเอง แม้อาจไม่ได้เริ่มจากงานในฝัน แต่มันคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้คุณก้าวไปถึงจุดนั้นได้เร็วขึ้น

 

จำไว้ว่า “ประสบการณ์” ไม่จำเป็นต้องมาจากงานประจำเสมอไป แต่ต้องเป็นสิ่งที่คุณสร้างขึ้นเองจากความพยายามของคุณเอง

 

ติดตาม Daywork ได้ที่ช่องทาง

Facebook : www.facebook.com/daywork.th

Website : www.daywork.co

Linkedin : www.linkedin.com/company/daywork-thailand