วันที่โพสต์: 20 October 2025

“อัปเดตล่าสุด! บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2568 ใครได้สิทธิ์ต่อ–ใครต้องลงทะเบียนใหม่ เช็กที่นี่ครบจบ!”

“อัปเดตล่าสุด! บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2568 ใครได้สิทธิ์ต่อ–ใครต้องลงทะเบียนใหม่  เช็กที่นี่ครบจบ!”

ในปี 2568 รัฐบาลยังคงเดินหน้ามาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยผ่านโครงการ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ บัตรคนจน หนึ่งในนโยบายสำคัญที่ช่วยลดภาระค่าครองชีพของประชาชนทั่วประเทศ โดยเฉพาะในช่วงที่ค่าครองชีพพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด มีการประกาศ อัปเดตข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับสิทธิ์และเงื่อนไขใหม่ของบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2568 ทั้งสำหรับผู้ที่ถือบัตรอยู่แล้ว และผู้ที่รอสมัครรอบใหม่ เพื่อให้ได้รับสิทธิ์ช่วยเหลือตามเกณฑ์ที่รัฐกำหนด

บทความนี้ Daywork จะพาไปสรุปแบบเข้าใจง่าย ว่าใครได้สิทธิ์ต่อ และใครต้องลงทะเบียนใหม่ พร้อมรวมรายละเอียดของสิทธิประโยชน์ที่ควรรู้ไว้ในที่เดียว

 

บัตรสวัสดิการแห่งรัฐคืออะไร?

บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” หรือ “บัตรคนจน” เป็นโครงการของรัฐบาลที่จัดทำขึ้นเพื่อช่วยเหลือ ประชาชนที่มีรายได้น้อย ให้สามารถเข้าถึงสวัสดิการพื้นฐานได้อย่างทั่วถึง เช่น ค่าอาหาร ค่าขนส่งสาธารณะ ค่าน้ำ–ค่าไฟ รวมถึงส่วนลดก๊าซหุงต้ม โดยสามารถใช้ซื้อของในร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ เช่น ร้านธงฟ้าประชารัฐ หรือใช้เดินทางด้วยรถไฟ รถโดยสาร และรถไฟฟ้าได้ในวงเงินที่กำหนด

 

โครงการนี้เริ่มใช้มาตั้งแต่ปี 2560 และปรับปรุงเงื่อนไขมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การช่วยเหลือ “ตรงจุดและเป็นธรรม” มากขึ้น โดยในปี 2568 รัฐบาลยังคงเดินหน้าโครงการต่อ พร้อมมีการ ทบทวนสิทธิ์ และปรับเกณฑ์ใหม่สำหรับผู้มีรายได้น้อยทั่วประเทศ

 

ปี 2568 ใครบ้างได้รับสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

การลงทะเบียนในปี 2568 แบ่งเป็น 2 กลุ่มหลัก ได้แก่

 

1. กลุ่มผู้ถือบัตรเดิม

หากยังมีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์ที่รัฐกำหนด กระทรวงการคลังจะคัดกรองอัตโนมัติ และได้รับสิทธิต่อเนื่องโดยไม่ต้องลงทะเบียนใหม่

 

2. กลุ่มผู้ลงทะเบียนใหม่

หากคุณเป็นผู้มีสัญชาติไทย อายุ 18 ปีขึ้นไป มีรายได้ทั้งครัวเรือนไม่เกินเกณฑ์ที่รัฐกำหนด และยังไม่เคยลงทะเบียนบัตรคนจนหรือสมัครบัตรคนจนมาก่อน รอบใหม่นี้คือโอกาสของคุณในการเข้าถึงสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ  โดยมีหลักเกณฑ์สำคัญที่ใช้พิจารณา ได้แก่

  • สัญชาติไทย และมีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
  • มีรายได้ส่วนบุคคลไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี
  • หากมีครอบครัว รายได้เฉลี่ยต่อคนในครัวเรือนไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี
  • มีทรัพย์สินทางการเงิน (เช่น เงินฝาก พันธบัตร หุ้นกู้) รวมไม่เกิน 100,000 บาท
  • ไม่มีบัตรเครดิต และไม่มีวงเงินกู้บ้านหรือรถยนต์เกินเกณฑ์ที่กำหนด
  • มีภูมิลำเนาอยู่ในประเทศไทย และสามารถยืนยันตัวตนได้ตามช่องทางที่ภาครัฐประกาศ

 

รวมสิทธิประโยชน์ “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2568” สิทธิ์ครบ จบในบัตรเดียว!

สำหรับผู้ที่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติและได้รับสิทธิ์ในโครงการ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2568 จะได้รับเงินช่วยเหลือและสิทธิประโยชน์จากรัฐบาลหลายรายการ เพื่อบรรเทาภาระค่าครองชีพในช่วงที่ค่าครองชีพสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2568 นี้ สิทธิ์หลักที่ผู้ถือบัตรจะได้รับจากภาครัฐ มีดังนี้

  • วงเงินซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค 300 บาทต่อคนต่อเดือน

ใช้สำหรับซื้อของจำเป็นในชีวิตประจำวัน เช่น ข้าวสาร ไข่ไก่ น้ำมันพืช และของใช้ในครัวเรือน ผ่านร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการทั่วประเทศ

  • ส่วนลดก๊าซหุงต้ม 80 บาทต่อคน ทุก 3 เดือน

เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายภายในบ้าน โดยสามารถใช้สิทธิ์ได้ที่ร้านจำหน่ายก๊าซที่ร่วมรายการ

  • วงเงินช่วยค่าเดินทาง 750 บาทต่อคนต่อเดือน

ใช้กับระบบขนส่งสาธารณะ ได้แก่ รถไฟ รถไฟฟ้า(BTS/MRT/) รถเมล์ ขสมก. รถโดยสาร บขส. และรถร่วมบริการที่อยู่ในโครงการ

  • อุดหนุนค่าไฟฟ้าไม่เกิน 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน

  • อุดหนุนค่าน้ำประปาไม่เกิน 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน

  • เพิ่มเบี้ยความพิการจาก 800 บาท เป็น 1,000 บาทต่อเดือ

  • สวัสดิการพิเศษสำหรับผู้พิการ

รัฐบาลให้ความสำคัญกับกลุ่มผู้พิการที่ถือเป็นหนึ่งในกลุ่มเปราะบาง โดยผู้พิการที่มี บัตรประจำตัวคนพิการ และได้รับ เบี้ยความพิการ 800 บาทต่อเดือน จะได้รับเงินเพิ่มอีก 200 บาทต่อเดือน รวมเป็น 1,000 บาทต่อเดือน

 หมายเหตุ: สวัสดิการทั้งหมดจะถูกโอนเข้าบัตรโดยตรง ไม่สามารถถอนเป็นเงินสด และไม่สามารถสะสมข้ามเดือนได้

 

เช็กเงื่อนไข และคุณสมบัติลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2568

การจะได้รับสิทธิ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2568 นั้น ผู้ลงทะเบียนจะต้องมีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์ที่รัฐบาลกำหนดไว้อย่างเคร่งครัด

ซึ่งมีการปรับเกณฑ์ใหม่เพื่อให้ครอบคลุมผู้มีรายได้น้อยที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างแท้จริง โดยมีคุณสมบัติสำคัญดังนี้ 

1. ต้องมีสัญชาติไทยและมีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป 

2. ไม่เป็นบุคคล ดังต่อไปนี้ 

  • ภิกษุ สามเณร นักพรตหรือนักบวช 
  • ผู้ต้องขัง หรือบุคคลที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ 
  • ข้าราชการ พนักงานราชการ 
  • ผู้รับบำเหน็จรายเดือน ผู้รับบำนาญ 
  • ข้าราชการการเมือง สส. และ สว. 

3. มีรายได้ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี และหากอยู่ในครอบครัว รายได้เฉลี่ยของคนในครอบครัวต้องไม่เกิน 100,000 บาทต่อคนต่อปี

4. มีทรัพย์สินทางการเงิน เช่น เงินฝาก พันธบัตร หรือตราสารหนี้ต่างๆ รวมกันไม่เกิน 100,000 บาทต่อคน

5. ต้องไม่มีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์หรือที่ดินเกินกว่าเกณฑ์ที่กระทรวงการคลังกำหนด 

6. ต้องไม่มีบัตรเครดิต ไม่มีวงเงินกู้บ้านตั้งแต่ 1.5 ล้านบาทขึ้นไป และไม่มีวงเงินกู้ซื้อรถเกิน 1 ล้านบาท

 

 

อยากลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ต้องทำยังไง?

สำหรับผู้ที่ยังไม่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือผู้ที่เคยพลาดสิทธิ์ในรอบก่อนหน้า ปี 2568 ถือเป็นโอกาสสำคัญในการสมัครเข้าร่วมโครงการอีกครั้ง โดยกระทรวงการคลังเตรียมเปิดให้ลงทะเบียนรอบใหม่ภายในช่วง เดือน พฤศจิกายน 2568 เพื่อให้ความช่วยเหลือเข้าถึงกลุ่มประชาชนผู้มีรายได้น้อย “ตัวจริง” อย่างทั่วถึงมากขึ้น

 

ช่องทางการลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 

  1. ลงทะเบียนออนไลน์ 

ผู้ที่สะดวกลงทะเบียนผ่านอินเทอร์เน็ต สามารถกรอกข้อมูลได้ที่เว็บไซต์  welfare.mof.go.th
ซึ่งเป็นช่องทางหลักของกระทรวงการคลัง โดยระบบจะเปิดให้บริการเฉพาะช่วงเวลาที่ประกาศเท่านั้น

  1. ลงทะเบียนด้วยตนเอง

สำหรับผู้ที่สนใจ แต่ไม่สะดวกลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐออนไลน์ ก็สามารถดำเนินการแบบออฟไลน์ได้ที่จุดรับลงทะเบียนต่าง ๆ ทั่วประเทศไทย ดังนี้

  • สำนักงานคลังจังหวัด ทั่วประเทศ
  • ที่ว่าการอำเภอ ทั่วประเทศ
  • สำนักงานเขต กทม.
  • สำนักงานเมืองพัทยา (สำหรับผู้ที่อาศัยในเขตเมืองพัทยา)
  • ธนาคารออมสินทุกสาขา
  • ธนาคารกรุงไทยทุกสาขา
  • ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ทุกสาขา

 

วิธีตรวจสอบผลบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เช็กสิทธิ์เองได้ง่าย ๆ

เมื่อทำการลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเรียบร้อยแล้ว สามารถตรวจสอบสถานะได้ง่าย ๆ จากเว็บไซต์ หรือต้นทางที่ลงทะเบียน หรือจะเช็กผ่านเว็บไซต์โดยตรงได้ที่

  • เข้าเว็บ https://govwelfare.cgd.go.th/welfare/check 
  • กรอกเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก 
  • กด “ตรวจสอบ” ข้อมูล
  • เช็กผลการตรวจสอบข้อมูลจะแสดงผล “มีสิทธิ” หรือ “ไม่มีสิทธิ”

 

อย่าลืมใช้สิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐให้คุ้ม และหารายได้เสริมเพิ่มความมั่นคงในชีวิต

บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” หรือ “บัตรคนจน” ยังคงเป็นหนึ่งในมาตรการสำคัญที่ช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชนผู้มีรายได้น้อย ช่วยให้เข้าถึงสินค้าและบริการจำเป็นได้ในราคาประหยัดมากขึ้น อย่างไรก็ตาม หากคุณตรวจสอบแล้วไม่ผ่านเกณฑ์ หรือยังไม่ได้รับสิทธิ์ในปี 2568 นี้ อย่าเพิ่งหมดหวังเรื่องรายได้หรือสวัสดิการจากรัฐ เพราะรัฐบาลยังมีมาตรการช่วยเหลืออื่น ๆ ที่เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าร่วมได้ เช่น โครงการ “คนละครึ่งพลัส 2568” ที่รัฐช่วยออกค่าใช้จ่ายครึ่งหนึ่ง เพื่อช่วยลดค่าครองชีพในชีวิตประจำวัน และนอกจากการใช้สิทธิ์จากภาครัฐแล้ว คุณยังสามารถสร้างรายได้เสริมได้ง่าย ๆ ผ่านงานพาร์ทไทม์บนแอป Daywork เพราะในช่วงเวลาที่ค่าครองชีพยังสูงขึ้นเรื่อย ๆ การมีรายได้เสริมจากงานพาร์ทไทม์ ก็อาจเป็นอีกทางเลือกที่ช่วยให้คุณยืนได้มั่นคงกว่าเดิม โดยเฉพาะสำหรับใครที่อยากใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ หรือมองหาโอกาสเริ่มต้นใหม่ด้วยตัวเอง

 

Daywork แอปหางานพาร์ทไทม์อันดับ 1 ของไทย คืออีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยให้คุณหารายได้เสริมได้ง่าย ๆ จากงานหลากหลายประเภท ทั้งงานพนักงานขาย งานคลังสินค้า งานอีเวนต์ ไปจนถึงงานบริการในร้านอาหาร ทุกงานมีรายละเอียดชัดเจน จ่ายค่าจ้างตรงเวลา และสามารถตรวจสอบสถานะการทำงานได้ในแอปเดียว

เพราะ “รายได้ที่มั่นคง” ไม่จำเป็นต้องรอเพียงสวัสดิการจากรัฐ  เริ่มต้นสร้างรายได้ด้วยตัวเองได้ตั้งแต่วันนี้กับ Daywork  แอปหางานพาร์ทไทม์ที่ให้คุณเลือกงานได้เองทุกวัน

 

ดาวน์โหลดได้ฟรีทาง App Store และ Play Store
ค้นหา Daywork แล้วเปลี่ยนเวลาว่างให้กลายเป็นรายได้ที่มั่นคงกว่าเดิม!

 

ติดตาม Daywork ได้ที่ช่องทาง

 Facebook : www.facebook.com/daywork.th

 Website : www.daywork.co

 Linkedin : www.linkedin.com/company/daywork-thailand

 Lemon8 : www.lemon8-app.com/@dayworkth

 

 

อ่านบทความต่อ

โหลดแอปตอนนี้ หางาน ได้ทันทีเร็วสุด 1 ชั่วโมง!

ดาวน์โหลด Daywork แอปพลิเคชันของเราได้แล้ววันนี้ ทั้งใน Apple Store และ Google Play

daywork-แพลตฟอร์มจับคู่งาน-ภาพตัวอย่างแอปพลิเคชั่น