จะจ้างเด็กพาร์ทไทม์ต้องเตรียมอะไรบ้าง
การจ้างเด็กพาร์ทไทม์มาช่วยงานเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยให้ธุรกิจของคุณดำเนินไปได้อย่างราบรื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่คุณกำลังประสบปัญหาขาดแคลนบุคลากร แต่ก่อนที่คุณจะตัดสินใจจ้างเด็กพาร์ทไทม์เข้ามาทำงาน คุณจำเป็นต้องเตรียมตัวและเตรียมเอกสารต่างๆ ให้พร้อม เพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพมากที่สุด แล้วต้องเตรียมอะไรบ้าง ไปดูพร้อมๆกันกับ Daywork เลย
สิ่งที่ต้องเตรียมก่อนจ้างเด็กพาร์ทไทม์
1.กำหนดวัตถุประสงค์และความต้องการ
2.เตรียมสถานที่ทำงาน
3.เตรียมเอกสารที่จำเป็น
4.เตรียมการฝึกอบรม
5.เตรียมระบบการจ่ายเงิน
1.กำหนดวัตถุประสงค์และความต้องการ
ก่อนที่คุณจะเริ่มต้นกระบวนการสรรหาเด็กพาร์ทไทม์ คุณจำเป็นต้องกำหนดวัตถุประสงค์และความต้องการของคุณให้ชัดเจนเสียก่อนว่าคุณต้องการจ้างเด็กพาร์ทไทม์มาทำงานในตำแหน่งใด มีหน้าที่ความรับผิดชอบอะไรบ้าง และต้องการให้เด็กพาร์ทไทม์ทำงานกี่ชั่วโมงต่อสัปดาห์ รายละเอียดเหล่านี้ต้องชัดเจน
2.เตรียมสถานที่ทำงาน
สถานที่ทำงานเป็นสิ่งสำคัญที่คุณต้องเตรียมให้พร้อมก่อนที่จะจ้างเด็กพาร์ทไทม์เข้ามาทำงาน คุณจำเป็นต้องจัดเตรียมโต๊ะทำงาน เก้าอี้ทำงาน และอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการทำงานให้พร้อม รวมไปถึงจัดเตรียมพื้นที่ทำงานที่สะอาด ปลอดภัย และมีแสงสว่างเพียงพอ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา รับเด็กพาร์ทไทม์เข้ามาจะได้สามารถเริ่มงานได้เลย ไม่ต้องมาค่อยจัดนุ้นนี่ตอนที่รับเด็กพาร์ทไทม์เข้ามาแล้ว เพราะมันจะเกิดความยุ่งยากภายหลังได้
3.เตรียมเอกสารที่จำเป็น
ในการจ้างเด็กพาร์ทไทม์ คุณจำเป็นต้องเตรียมเอกสารที่จำเป็นต่างๆ ให้พร้อม ได้แก่
- แบบฟอร์มการสมัครงาน ซึ่งรายละเอียดที่ควรมีในแบบฟอร์มจ้างงานที่จะให้เด็กพาร์ทไทม์กรอกข้อมูล ควรจะมี
1.ข้อมูลทั่วไป
ชื่อบริษัท: ควรระบุชื่อเต็มของบริษัท
ที่อยู่บริษัท: ควรระบุที่อยู่ที่ชัดเจน รวมไปถึงรหัสไปรษณีย์
เบอร์โทรศัพท์: ควรระบุเบอร์โทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้
อีเมล: ควรระบุอีเมลที่ใช้ติดต่อประสานงาน
ตำแหน่งงาน: ควรระบุชื่อตำแหน่งงานที่ชัดเจน
แผนก: ควรระบุแผนกที่สังกัด
วันที่เริ่มงาน: ควรระบุวันที่เริ่มทำงานที่แน่นอน
เงินเดือน: ควรระบุจำนวนเงินเดือน
ชั่วโมงการทำงาน: ควรระบุจำนวนชั่วโมงการทำงานต่อวัน
2.ระยะเวลาการจ้างงาน
งานประจำ: ควรระบุว่าเป็นงานประจำ
งานชั่วคราว: ควรระบุระยะเวลาการจ้างงาน
3.ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อ-นามสกุล: ควรระบุชื่อ-นามสกุลที่ชัดเจน
ที่อยู่: ควรระบุที่อยู่ที่ชัดเจน รวมไปถึงรหัสไปรษณีย์
เบอร์โทรศัพท์: ควรระบุเบอร์โทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้
อีเมล: ควรระบุอีเมลที่ใช้ติดต่อประสานงาน
เลขประจำตัวประชาชน: ควรระบุหมายเลข 13 หลัก
วันเดือนปีเกิด: ควรระบุวันเดือนปีเกิดที่ชัดเจน
วุฒิการศึกษา: ควรระบุวุฒิการศึกษาสูงสุด
ประสบการณ์การทำงาน: ควรระบุประสบการณ์การทำงานที่เกี่ยวข้อง
4.รายละเอียดงาน
หน้าที่ความรับผิดชอบ: ควรระบุรายละเอียดหน้าที่ความรับผิดชอบของตำแหน่งงาน
ทักษะที่จำเป็น: ควรระบุทักษะที่จำเป็นสำหรับตำแหน่งงาน
คุณสมบัติอื่นๆ: ควรระบุคุณสมบัติอื่นๆ ที่จำเป็น
5.ทักษะที่จำเป็น
เช่น ทักษะการสื่อสารที่ดี , ทักษะการขาย , ความรู้เกี่ยวกับสินค้าและบริการ เป็นต้น
6.คุณสมบัติอื่นๆ
เช่น บุคลิกดี , มองโลกในแง่ดี , ทำงานเป็นทีม เป็นต้น
7.สวัสดิการ
เช่น ประกันสังคม , ประกันสุขภาพ , กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เป็นต้น
- สัญญาจ้างงาน รายละเอียดสัญญาการจ้างงานที่ควรมี
1. ข้อมูลทั่วไป
ชื่อบริษัท: ควรระบุชื่อเต็มของบริษัท
ที่อยู่บริษัท: ควรระบุที่อยู่ที่ชัดเจน รวมไปถึงรหัสไปรษณีย์
เบอร์โทรศัพท์: ควรระบุเบอร์โทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้
อีเมล: ควรระบุอีเมลที่ใช้ติดต่อประสานงาน
ชื่อลูกจ้าง: ควรระบุชื่อ-นามสกุลของลูกจ้าง
ที่อยู่ลูกจ้าง: ควรระบุที่อยู่ที่ชัดเจนของลูกจ้าง
เบอร์โทรศัพท์: ควรระบุเบอร์โทรศัพท์ของลูกจ้าง
อีเมล: ควรระบุอีเมลของลูกจ้าง
ตำแหน่งงาน: ควรระบุชื่อตำแหน่งงานที่ชัดเจน
แผนก: ควรระบุแผนกที่สังกัด
วันที่เริ่มงาน: ควรระบุวันที่เริ่มทำงานที่แน่นอน
เงินเดือน: ควรระบุจำนวนเงินเดือน
รูปแบบการจ่ายเงินเดือน: ควรระบุรูปแบบการจ่ายเงินเดือน เช่น โอนเงินผ่านธนาคาร
วันจ่ายเงินเดือน: ควรระบุวันจ่ายเงินเดือน
ชั่วโมงการทำงาน: ควรระบุจำนวนชั่วโมงการทำงานต่อวัน
วันเวลาการทำงาน: ควรระบุวันเวลาการทำงาน
สถานที่ทำงาน: ควรระบุสถานที่ทำงาน
2.ระยะเวลาการจ้างงาน
งานประจำ: ควรระบุว่าเป็นงานประจำ
งานชั่วคราว: ควรระบุระยะเวลาการจ้างงาน
3.รายละเอียดงาน
หน้าที่ความรับผิดชอบ: ควรระบุรายละเอียดหน้าที่ความรับผิดชอบของตำแหน่งงาน
ทักษะที่จำเป็น: ควรระบุทักษะที่จำเป็นสำหรับตำแหน่งงาน
คุณสมบัติอื่นๆ: ควรระบุคุณสมบัติอื่นๆ ที่จำเป็น
4.สวัสดิการ
ประกันสังคม: ควรระบุว่ามีประกันสังคม
ประกันสุขภาพ: ควรระบุรายละเอียดของประกันสุขภาพ
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ: ควรระบุว่ามีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
วันลาป่วย: ควรระบุจำนวนวันลาป่วย
วันลาพักร้อน: ควรระบุจำนวนวันลาพักร้อน
ค่าล่วงเวลา: ควรระบุอัตราค่าล่วงเวลา
โบนัส: ควรระบุเงื่อนไขการจ่ายโบนัส
อื่นๆ: ควรระบุสวัสดิการอื่นๆ
5.กฎระเบียบ
การลาออก: ควรระบุระยะเวลาการแจ้งล่วงหน้าก่อนลาออก
การเลิกจ้าง: ควรระบุเงื่อนไขการเลิกจ้าง
การรักษาความลับ: ควรระบุข้อกำหนดเกี่ยวกับการรักษาความลับ
การห้ามนำข้อมูลออกไป: ควรระบุข้อกำหนดเกี่ยวกับการห้ามนำข้อมูลออกไป
การแต่งกาย: ควรระบุข้อกำหนดเกี่ยวกับการแต่งกาย
อื่นๆ: ควรระบุข้อกำหนดอื่นๆ
6. ลายเซ็น
ลายเซ็นตัวแทนบริษัท: ควรมีลายเซ็นของตัวแทนบริษัท
ลายเซ็นลูกจ้าง: ควรมีลายเซ็นของลูกจ้าง
7. หมายเหตุ
- สัญญาจ้างงานควรเป็นลายลักษณ์อักษร
- สัญญาจ้างงานควรมีสำเนา 2 ฉบับ
- ควรให้ลูกจ้างควรอ่านสัญญาจ้างงานอย่างละเอียดก่อนเซ็นชื่อ
- ควรให้ลูกจ้างควรเก็บสำเนาสัญญาจ้างงานไว้
4.เตรียมการฝึกอบรม
ก่อนที่เด็กพาร์ทไทม์จะเริ่มทำงาน คุณจำเป็นต้องจัดการฝึกอบรมให้กับเด็กพาร์ทไทม์เพื่อให้เด็กพาร์ทไทม์มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหน้าที่ความรับผิดชอบของตนเอง รวมไปถึงวิธีการทำงานต่างๆ ภายในองค์กรหรือบริษัท
5. เตรียมระบบการจ่ายเงิน
คุณจำเป็นต้องเตรียมระบบการจ่ายเงินให้กับเด็กพาร์ทไทม์ให้ชัดเจน โดยคุณสามารถเลือกจ่ายเงินเป็นรายชั่วโมง รายวัน หรือรายสัปดาห์ก็ได้ ตามรายละเอียด และ สัญญาที่คุณได้ทำร่วมกัน
การจ้างเด็กพาร์ทไทม์ นอกจากจะช่วยในการเสริมรายได้ของครอบครัวแล้ว ยังมีผลดีต่อพัฒนาการและทักษะของเด็กอีกด้วย อย่ารอช้าในการส่งเสริมและสนับสนุนให้เด็กได้มีโอกาสทำงานเพื่อเงินเดือนเสริม สร้างพื้นที่ทำงานที่ดีให้กับเด็กเพื่อการเติบโตและพัฒนาเต็มศักยภาพของเด็ก ในระยะยาวนี้และอนาคต
ติดตาม Daywork ได้ที่ช่องทาง
Facebook : www.facebook.com/daywork.th
Website : www.daywork.co
Linkedin : www.linkedin.com/company/daywork-thailand
Blockdit : www.blockdit.com/dayworkthailand