ความ “ ไม่แฟร์ ” ของการทำงานพาร์ทไทม์ที่อยากให้หนีไปให้ไกล
การทำงานพาร์ทไทม์เป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมสำหรับนักเรียน นักศึกษา และผู้ที่ต้องการหารายได้พิเศษ แต่ก็มีบางแง่มุมของการทำงานพาร์ทไทม์ที่อาจไม่ยุติธรรมหรือไม่เป็นธรรม ซึ่งอาจส่งผลต่อความเป็นอยู่ และความสุขของผู้ทำงานได้ ในบทความนี้ Daywork จะมาพูดถึง 5 ความ “ ไม่แฟร์ ” ของการทำงานพาร์ทไทม์ที่คุณควรรู้และหลีกเลี่ยง
ความ “ ไม่แฟร์ ” ควรรู้และควรหลีกเลี่ยง
1. ค่าแรงต่ำ
2. ชั่วโมงการทำงานที่ไม่แน่นอน
3. ขาดสวัสดิการ
4. การเลือกปฏิบัติ
5. โอกาสในการเติบโตที่จำกัด
1. ค่าแรงต่ำ
หนึ่งในปัญหาที่พบบ่อยที่สุดของการทำงานพาร์ทไทม์คือค่าแรงที่ต่ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทยที่มีค่าแรงขั้นต่ำที่ค่อนข้างต่ำอยู่แล้ว เมื่อเทียบกับค่าครองชีพที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ผู้ทำงานพาร์ทไทม์จำนวนมากต้องทำงานหลายๆ งานเพื่อให้ได้ค่าแรงที่เพียงพอต่อการเลี้ยงชีพ แม้แต่กระทั่งปัญหาโดนโกงค่าแรง ที่เกิดจากการแจ้งรายละเอียดงานไม่ชัดเจน ดังนั้น ถ้าไม่อยากโดนโกงค่าแรง หรือ ไม่อยากทำงานหนักเกินเงินที่ควรจะได้รับ สามารถดาวน์โหลดแอป Daywork มาเป็นตัวช่วยในการหางานพาร์ทไทม์ได้เลย เพราะในแอปจะชี้แจงรายละเอียดการทำงานอย่างชัดเจน และที่สำคัญได้เงินค่าแรงตรงตามที่แจ้งในแอป 100 เปอร์เซ็นต์ หมดปัญหาการโดนโกงค่าแรง หรือ ได้รับค่าแรงต่ำกว่าหน้าที่ที่ได้รับแน่นอน
2. ชั่วโมงการทำงานที่ไม่แน่นอน
อีกหนึ่งปัญหาที่พบบ่อยของการทำงานพาร์ทไทม์คือชั่วโมงการทำงานที่ไม่แน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในธุรกิจที่ขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้า เช่น ร้านอาหาร ร้านค้าปลีก หรือธุรกิจบริการต่างๆ ทำให้ผู้ทำงานพาร์ทไทม์ไม่สามารถวางแผนการใช้ชีวิตได้อย่างแน่นอน และอาจส่งผลต่อการเรียนหรือการทำงานอื่นๆ ได้ และก็เหมือนเดิม แอป Daywork สามารถช่วยในเรื่องนี้ได้เช่นเดียวกัน เพราะภายในแอปจะแจ้งรายละเอียดการเข้า - ออก งานที่ชัดเจน กำหนดเวลาการทำงานที่ชัดเจน ถ้าโดนให้ทำงานเดินเวลาแต่ได้รายได้เท่าเดิม สามารถแจ้งเข้ามาทางแอป Daywork ได้เลย
3. ขาดสวัสดิการ
ผู้ทำงานพาร์ทไทม์มักจะไม่ได้รับสวัสดิการต่างๆ เช่น ประกันสุขภาพ ประกันสังคม หรือวันหยุดพักร้อน ซึ่งอาจส่งผลต่อความมั่นคงทางการเงินและความเป็นอยู่ของผู้ทำงานได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่เกิดเจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุ ปัญหานี้เป็นปัญหาที่สำคัญ เพราะร่างกายต้องมาเป็นที่ 1 ในการใช้หาเงิน ทางแอป Daywork ได้จับมือกับแอป Cliknic ใครที่อยากทำงานพาร์ทไทม์แบบไม่ต้องกังวลเรื่องสุขภาพมาทำงานกับ Daywork ได้เลย เพราะถ้ามีอาการป่วย ในกลุ่มโรค 32 อาการ ทาง Cliknic มีบริการพบแพทย์ออนไลน์ และ บริการส่งยาฟรีถึงหน้าบ้าน หมดห่วงเรื่องสุขได้เลย และที่สำคัญอีกหนึ่งอย่าง ในแอป Daywork จะมีการแจ้งสวัสดิการที่จะได้รับ สามารถเลือกทำงานตามสวัสดิการที่เห็นว่าสมควรได้เลย
4. การเลือกปฏิบัติ
ผู้ทำงานพาร์ทไทม์อาจประสบกับการโดนเลือกปฏิบัติจากนายจ้างหรือเพื่อนร่วมงานได้ เนื่องจากสถานะการจ้างงานที่ไม่ถาวร ทำให้ผู้ทำงานพาร์ทไทม์อาจจะไม่ได้รับการเคารพหรือการปฏิบัติที่เท่าเทียมเหมือนกับพนักงานประจำ แต่อาจจะไม่ใช่ทุกที่เสมอไป แต่ก็เป็นความไม่แฟร์ เพราะทุกคนมาทำงานเหมือนกัน ดังนั้น การโดนเลือกปฏิบัติเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นอย่างยิ่ง Daywork ใส่ใจทุกคนที่เข้ามาทำงานพาร์ทไทม์ ผ่านแอปDaywork ถ้าใครที่ไปทำงานแล้วมีปัญหาแบบนี้ สามารถทักมาหาทาง Daywork ได้เลย เพราะทาง Daywork จะมีพี่เลี้ยง master คอยให้คำปรึกษาและดูแลตลอดการทำงานพาร์ทไทม์เลย
5. โอกาสในการเติบโตที่จำกัด
ผู้ทำงานพาร์ทไทม์มักจะไม่ได้รับโอกาสในการเติบโตหรือเลื่อนตำแหน่งในหน้าที่การงาน เนื่องจากสถานะการจ้างงานที่ไม่ถาวร ทำให้ผู้ทำงานพาร์ทไทม์อาจรู้สึกว่าตนเองไม่มีอนาคตในองค์กรและอาจต้องมองหางานใหม่ๆ อยู่เสมอ ซึ่งการที่จะมองหางานใหม่เพื่ออัพเกรดตัวเองขึ้นเรื่อยๆก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิด คนเราต้องมีการพัฒนาอยู่เสมอ ทำงานที่ไหนแล้วรู้สึกว่ามันไม่ใช่ การที่จะลาออกเพื่อไปหาสิ่งที่คู่ควรก็เป็นเรื่องที่ควรทำนะคะ
ดังนั้น หากคุณกำลังพิจารณาที่จะทำงานพาร์ทไทม์ คุณควรตระหนักถึงความ ‘ไม่แฟร์’ เหล่านี้และพิจารณาอย่างรอบคอบว่าคุณสามารถยอมรับและรับมือกับความท้าทายเหล่านี้ได้หรือไม่ หากคุณไม่สามารถยอมรับความ ‘ไม่แฟร์’ เหล่านี้ได้ คุณควรพิจารณาหางานอื่นๆ ที่อาจเหมาะสม กับคุณมากกว่าค่ะ
ติดตาม Daywork ได้ที่ช่องทาง
Facebook : www.facebook.com/daywork.th
Website : www.daywork.co
Linkedin : www.linkedin.com/company/daywork-thailand
Blockdit : www.blockdit.com/dayworkthailand