ขอคืนภาษีหัก ณ ที่จ่าย ต้องทำยังไง ที่นี่มีคำตอบ

17 August 2020
จากบทความ การหักภาษี ณ ที่จ่าย คืออะไร และ ทำไมถึงต้องหัก ? วันนี้เราจะมาแนะนำวิธีการ ขอคืน ภาษี”หัก ณ ที่จ่าย” ว่าต้องทำยังไง ขอคืนที่ไหน เช็คสถานะการขอคืนยังไง ที่นี่มีคำตอบ!
หัวข้อสำคัญ
-
ใครบ้างที่มีสิทธิขอคืน ภาษี “หัก ณ ที่จ่าย” ได้ ?
-
วิธีการขอคืนภาษีแบบออนไลน์
-
ช่องทางการรับเงินภาษีคืน
-
แบบฟอร์มและเอกสาร ที่ต้องยื่นพร้อมกับการขอคืน
-
สถานที่ ที่เราจะไปยื่นคำร้องขอคืนภาษี
-
หากไม่มีการหัก ภาษี ณ ที่จ่าย ตามเวลาที่กำหนด
-
ค่าปรับอาญา
-
เงินเพิ่ม
-
ใครบ้างที่มีสิทธิขอคืน ภาษี “หัก ณ ที่จ่าย” ได้ ?
1. ทุกคนที่เสียภาษี ที่อาจจะมีการจ่ายภาษีเกินไว้ จ่ายผิด หรือ จ่ายซ้ำ
2. ผู้ที่จ่ายภาษี หัก ณ ที่จ่าย ไปแล้ว และมีภาษีเกินเนื่องจากการได้รับ เครดิตภาษี
3. ผู้ที่ไม่มีหน้าที่ ที่จะต้องเสียภาษี แต่มีถูกหัก ภาษี ณ ที่จ่าย ไม่ว่าจะด้วยเหตุ ใดก็ตาม
4. ผู้ที่มีหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่าย ที่ทำเรื่องจ่ายภาษีผิดหรือซ้ำ
5. ผู้เสียประโยชน์จากการนำส่งภาษีไว้เกินหรือผิดหรือซ้ำ หรือโดยไม่มีหน้าที่ต้องเสีย
วิธีการขอคืนภาษีแบบออนไลน์
- เข้าไปที่เว็บไซต์ของกรมสรรพากร
- สมัครเข้าใช้งานและเข้าสู่ระบบ
- ทำการกรอกข้อมุลภาษีให้เรียบร้อยและตรวจสอบความถูกต้อง
- จะมีการแจ้งผลทันทีในหน้าเว็บหลังจากที่เราใส่ข้อมูลและยืนยันการยื่นภาษีเรียบร้อยแล้ว
- ในกรณีที่ไม่ต้องมีการให้ชำระภาษี หรือ ได้มีการชำระภาษีไว้เกิน จะแสดงหน้าจอโดยมีข้อความว่า "กรมสรรพากรได้รับข้อมูลการยื่นแบบเรียบร้อยแล้ว" พร้อมแสดงหมายเลขอ้างอิงการยื่นแบบและวันที่ยื่นแบบ ให้พิมพ์แบบเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ช่องทางการรับเงินภาษีคืน
หลังจากที่เราได้ทำการยื่นภาษีไปแล้วและกรรมสรรพากรอนุมัติเงินคืนภาษีให้เรา เราสามารถรับเงินคืนภาษาได้ตามช่องทางต่อไปนี้
- พร้อมเพย์ (แนะนำช่องทางนี้จะสะดวกที่สุด)
- รับเงินเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทย
- รับเงินคืนเข้า e-wallet ของธนาคารกรุงไทย
ในกรณีที่ไม่สะดวกยื่นแบบออนไลน์ก็สามารถไปยื่นเอกสารที่กรมสรรพากรได้อีกทางหนึ่ง ตามนี้เลย
แบบฟอร์มและเอกสาร ที่ต้องยื่นพร้อมกับการขอคืน
ให้ผู้มีสิทธิขอคืน “ภาษี ณ ที่จ่าย” ยื่นคำร้องขอคืนเงินตาม แบบ ค.10 เป็นรายเดือนภาษี พร้อมแนบเอกสารที่พิสูจน์ได้ว่ามีการนำส่งภาษีไว้เกินหรือผิดหรือซ้ำ หรือโดยไม่มีหน้าที่ต้องเสีย ดังนี้
1. หนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล (กรณีเป็นนิติบุคคล)
2. หนังสือมอบอำนาจติดอากรแสตมป์ 10 บาท พร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้มอบอำนาจ และบัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ (กรณีมอบอำนาจ)
3. สำเนาแบบแสดงรายการที่นำส่งภาษี พร้อมใบเสร็จรับเงินต้นฉบับ
4. หลักฐานการแจ้งหนี้
5. หลักฐานการรับเงิน
6. ใบสำคัญจ่าย
7. หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย (ในกรณีของน้องที่ทำงานกับ Daywork สามารถขอเอกสารรับรองหรือใบ 50 ทวิ กับ Daywork ได้เลยค่ะ)
8. อื่นๆ ที่ต้องใช้ในการพิจารณาคืนเงิน
สถานที่ ที่เราจะไปยื่นคำร้องขอคืนภาษี
หลังจากที่เราเตรียมเอกสารครบถ้วนและถูกต้องแล้ว เราก็จำเป็นที่จะต้องไปยื่นเอกสารที่ สำนักงานสรรพากรพื้นที่ หรือสำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขาในเขตท้องที่ของผู้มีสิทธิขอคืนภาษี
ระยะเวลาที่เราสามารถขอคืน ภาษี หัก ณ ที่จ่าย ได้ (อายุความขอคืน)
ผู้มีสิทธิขอคืนสามารถยื่นคำร้องขอคืนภายในอายุความ ดังนี้
1. กรณีภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
1.1 ผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ที่ถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย และนำส่งเงินเกินกว่าที่ควรต้องเสีย ให้ยื่นคำร้องขอคืนเงิน ภายใน 3 ปี นับแต่วันสุดท้ายแห่งปีซึ่งถูกหักภาษีเกินไป ตามมาตรา 63
1.2 ผู้มีเงินได้บุคคลธรรมดาเสียภาษีเงินได้เกินไปไม่ว่าจะเป็นกรณีใด ให้ยื่นคำร้องขอคืนเงิน (แบบ ค.10) เป็นรายปีภาษี ภายใน 3 ปีนับแต่วันสุดท้ายของการยื่นแบบ ตามมาตรา 27 ตรี
2. กรณีภาษีเงินได้นิติบุคคล
2.1 ให้ผู้มีสิทธิขอคืนภาษีหัก ณ ที่จ่าย ยื่นคำร้องขอคืน ภายใน 3 ปี นับแต่วันสุดท้ายของการยื่นแบบของรอบระยะเวลาบัญชีปีนั้น
2.2 ให้ผู้มีสิทธิขอคืนภาษีหัก ณ ที่จ่าย ตามมาตรา 3 เตรส ยื่นคำร้องขอคืนเงิน ภายใน 3 ปีนับแต่วันสุดท้ายของการยื่นแบบ
หากไม่มีการหัก ภาษี ณ ที่จ่าย ตามเวลาที่กำหนด จะต้องถูกลงโทษด้วยนะ
บทลงโทษแบ่งออกเป็น 2 หัวข้อดังนี้
ค่าปรับอาญา
กรณีไม่ยื่นแบบภายในกำหนด มีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท
เงินเพิ่ม
หากผู้จ่ายเงินซึ่งจ่ายเงินที่อยู่ในบังคับต้องถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย ไม่ทำการหักภาษี ณ ที่จ่าย ผู้จ่ายเงินย่อมมีความรับผิดในภาษีที่ไม่หัก ณ ที่จ่ายและนำส่งร่วมกับผู้มีเงินได้ และต้องรับผิดเสียเงินเพิ่มอีกอัตราร้อยละ 1.5 ต่อเดือนหรือเศษของเดือน นับแต่วันพ้นกำหนดการยื่นแบบ
สุดท้ายแล้ว หากเราต้องการที่จะทำเรื่องขอคืน “ภาษี ณ ที่จ่าย” เราก็ควรที่จะเตรียมข้อมูลและเอกสารที่ต้องใช้ให้พร้อม เพื่อให้เกิดความสะดวกกับตัวผู้ยื่นขอคืนและกับเจ้าหน้าที่ ที่ต้องดำเนินการให้เรา สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมด้านภาษีได้ที่เว็บไซต์ของกรมสรรพากร www.rd.go.th
*สามารถเข้าไปดู คำถามที่พบบ่อย ได้เป็นอีกช่องทางหนึ่ง หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม
ติดตามข่าวสารของ Daywork ได้ที่
Facebook: daywork.th
LINE: @daywork
Twitter: @DayworkOfficial