Part-time Resume เขียนยังไงให้โดดเด่น? คู่มือเรซูเม่สมัครงานพาร์ทไทม์

อยากได้งานพาร์ทไทม์ให้ไว อย่าส่งใบสมัครเปล่า ๆ โดยไม่มีเรซูเม่เด็ดขาด! เพราะในโลกของการสมัครงาน “ความประทับใจแรก” คือทุกอย่าง นายจ้างหรือ HR ใช้เวลาเพียง 6–20 วินาที เท่านั้นในการสแกนเรซูเม่รอบแรก เพื่อพิจารณาว่า “ควรอ่านต่อหรือไม่”
นั่นหมายความว่า ถ้าเรซูเม่ของคุณไม่สามารถดึงดูดสายตา และสื่อสารจุดเด่นได้ภายในไม่กี่วินาทีแรก โอกาสในการได้งานก็จะลดลงอย่างมาก ดังนั้นการมี Part-time Resume ที่เขียนดี กระชับ ตรงประเด็น และออกแบบให้ดูสะดุดตา คือหัวใจสำคัญที่จะทำให้นายจ้างเห็นว่า “คุณคือคนที่ใช่” ตั้งแต่แรกเห็น
มีคนส่งเรซูเม่ (Resume) สมัครงานเข้ามาทุกๆวัน Daywork ได้พบเจอการทำเรซูเม่มาแล้วร้อยแปดพันเก้ารูปแบบ วันนี้ Daywork Master จึงอยากมาแนะนำวิธีการเขียนเรซูเม่ที่ดี แบบที่ HR ในบริษัทเห็นแล้วอยากเปิดดูแน่นอน!
Part-time Resume คืออะไร? ทำไมถึงสำคัญกับการสมัครงานพาร์ทไทม์
เรซูเม่สมัครงานพาร์ทไทม์ คือเอกสารสรุปประวัติส่วนตัว ประสบการณ์ ทักษะ และความสามารถของเราแบบสั้น กระชับ บนกระดาษเพียงแค่หนึ่งหน้า จุดประสงค์ของมันคือเพื่อให้นายจ้างเห็นว่า “เราคือคนที่เหมาะกับงานนี้” ได้ตั้งแต่แรกเห็น แม้จะยังไม่มีประสบการณ์มากก็ตาม
หลายคนคิดว่าการหางานพาร์ทไทม์ไม่จำเป็นต้องมีเรซูเม่ เพราะเป็นงานชั่วคราวหรือทำแค่ไม่กี่ชั่วโมงต่อวัน แต่ในความจริงแล้ว การมีเรซูเม่ที่ดีคือข้อได้เปรียบสำคัญ ที่แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจ ความเป็นมืออาชีพ และความพร้อมที่จะเรียนรู้ของคุณ
ไม่ว่าคุณจะเป็นนักเรียน นักศึกษา หรือเพิ่งเริ่มหางาน การเขียนเรซูเม่ให้ดีคือการบอกเล่าเรื่องราวของตัวเองในเวอร์ชันที่ “น่าเลือก” ที่สุด อย่าเพียงแค่ใส่ข้อมูลให้ครบ แต่ควรใส่ด้วยความตั้งใจ ให้ทุกคำพูดสะท้อนตัวตนและความสามารถของคุณอย่างชัดเจน
8 องค์ประกอบสำคัญของ Part-time Resume ที่นายจ้างมองหา
การเขียนเรซูเม่สมัครงานพาร์ทไทม์ ไม่ใช่แค่การกรอกข้อมูลให้ครบ แต่คือการ “เล่าเรื่องตัวคุณ” ให้กระชับ น่าสนใจ และตรงใจนายจ้างภายในเวลาไม่กี่วินาที เรซูเม่ที่ดีจะต้องสามารถสะท้อน “ตัวตน ความสามารถ และทัศนคติในการทำงาน” ออกมาได้อย่างชัดเจน
1.ข้อมูลส่วนตัว (Personal Information)
ชื่อ-นามสกุล, เบอร์โทร, อีเมล, ที่อยู่ – ใช้ข้อมูลที่ติดต่อได้จริง และควรเป็นอีเมลที่ดูเป็นทางการ เช่น yourname@gmail.com
2.วัตถุประสงค์ในการสมัครงาน (Objective)
ย่อหน้าเล็ก ๆ ที่บอกว่า “คุณสมัครงานนี้ไปทำไม?” อย่าเขียนกว้างเกินไป ควรเจาะจงและสะท้อนเจตจำนงที่ชัดเจน เช่น “ต้องการฝึกประสบการณ์ด้านบริการลูกค้า และพร้อมเรียนรู้งานใหม่อย่างเต็มที่”
3. การศึกษา (Education)
การใส่ข้อมูลประวัติการศึกษาในเรซูเม่นั้น ให้ใส่คณะ สาขา และชื่อสถานที่ที่จบการศึกษา วิชาเอก วิชาโท เรียนด้านไหนบ้าง ควรใส่มาเป็นชื่อเต็ม (ไม่แนะนำให้ย่อนะ) และให้ระบุการศึกษาปัจจุบันหรือที่จบมาล่าสุดก่อน แล้วค่อยๆไล่ย้อนไปยังอดีต โดยส่วนมากจะไล่ไปถึงแค่มัธยมก็เพียงพอแล้วค่ะ ถ้าตำแหน่งที่เราต้องการสมัครงานตรงกับสาขาที่เราเรียนมา จะยิ่งเพิ่มโอกาสในการได้รับพิจารณามากขึ้นด้วยนะ
4.ประสบการณ์ทำงาน (Experience)
ถ้ามีประสบการณ์ทำงานมาก่อน ควรเขียนให้กระชับ พร้อมระบุหน้าที่และสิ่งที่ได้เรียนรู้ เช่น ประสบการณ์การทำงานพาร์ทไทม์ระหว่างเรียน นอกจากจะทำให้ดูเป็นมืออาชีพมากขึ้นแล้วยังแสดงให้ เห็นถึงความรับผิดชอบและความอดทนอีกด้วย
ถ้าไม่มีประสบการณ์ทำงานมาก่อน จะใส่กิจกรรมนอกหลักสูตร กิจกรรมพิเศษต่างๆ ของมหาวิทยาลัย เช่น เคยเป็นผู้นำเชียร์หรือหัวหน้าทีมกีฬา การประกวดรางวัลต่างๆ ก็เป็นประสบการณ์ที่ช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับการเขียนเรซูเม่ได้นะ โดยให้เชื่อมประสบการณ์ที่เคยทำ กับทักษะที่มีประโยชน์ในการทำงานพาร์มไทม์
ลองเขียนแบบนี้
- เข้าร่วมชมรมโต้วาที → ฝึกการสื่อสาร
- จัดกิจกรรมค่ายอาสา → เรียนรู้การทำงานเป็นทีม
- นำเสนอรายงานหน้าห้อง → ฝึกการจัดการและการเตรียมงาน
จะทำให้ HR เห็นภาพถึงประสบการณ์การทำงานของเรามากยิ่งขึ้น
5.ทักษะ (Skills)
สิ่งหนึ่งที่ทำให้เรซูเม่ของแต่ละคนมีความน่าสนใจแตกต่างกัน นั่นก็คือทักษะหรือความสามารถพิเศษ เช่น ความสามารถทางด้านภาษาต่างประเทศ การขาย พิมพ์สัมผัส การขับรถ ทำอาหาร การบริการลูกค้า, การสื่อสาร หรือความสามารถในการใช้โปรแกรมเฉพาะทาง เช่น การใช้ Microsoft Office, Canva เรียกว่ามีอะไรเด็ดๆเราต้องอวดให้โลกรู้ให้หมดเลย สามารถแนบสำเนาใบรับรองต่างๆเป็นเอกสารประกอบการพิจารณามาได้ด้วยนะ
6.ความสนใจและงานอดิเรก (Interests & Hobbies)
“ความสนใจและงานอดิเรก ช่วยเติมเรซูเม่พาร์มไทม์ให้มีมิติ สมบูรณ์ขึ้น” เป็นการบอกเล่าตัวตน Daywork แนะนำให้เลือกใส่เฉพาะสิ่งที่สื่อถึงบุคลิกและลักษณะนิสัยเชิงบวก เช่น การอ่านหนังสือ, ถ่ายภาพ, ทำอาหาร
7. รูปสมัครงานพาร์ทไทม์
รูปถ่ายในเรซูเม่ เป็นอีกหนึ่งจุดที่ช่วยให้ HR หรือผู้ว่าจ้างจดจำเราได้ง่ายขึ้น เพราะฉะนั้นควรเลือกรูปที่ดูมั่นใจ เป็นมิตร และสะท้อนบุคลิกภาพที่ดีของตัวเอง
แนะนำให้ใช้ รูปถ่ายที่ไม่เกิน 6 เดือน และควรหลีกเลี่ยงรูปเซลฟี่ มุมกดหน้าจนคางแหลม หรือรูปที่แต่งฟิลเตอร์จนดูไม่เหมือนตัวจริง รวมถึงรูปที่ถ่ายไกล ๆ เผลอ ๆ หันข้าง ใส่แว่นดำ หรือมีผมบังหน้า ก็อาจไม่เหมาะกับการใช้ในเรซูเม่เท่าไหร่
ลองเลือกเสื้อผ้าที่ดูเรียบร้อย สุภาพ แล้วถ่ายหน้าตรง ยิ้มแบบเป็นธรรมชาติ ไม่ต้องเกร็งมาก ภาพที่ออกมาจะดูดี เป็นมืออาชีพ และช่วยให้เรซูเม่น่าสนใจขึ้นอีกเยอะเลย
ถ้าอยากรู้เคล็ดลับเพิ่มเติมเกี่ยวกับ วิธีเลือกรูปสมัครงานพาร์ทไทม์ คลิกอ่านต่อได้ที่นี่เลย
8. บุคคลอ้างอิง (References)
การใส่ข้อมูลบุคคลอ้างอิง เช่น นายจ้างเก่า หรืออาจารย์ เป็นอีกทางหนึ่งที่ช่วย ให้เรซูเม่ดูน่าเชื่อถือ เผื่อทางบริษัทสนใจและต้องการสอบถามเกี่ยวกับตัวเราเพิ่มเติม ก็จะมีบุคคลที่ช่วยยืนยันข้อมูลให้นั่นเอง
ข้อควรระวัง! ไม่ควรใส่ชื่อญาติพี่น้องหรือเพื่อนสนิทลงไปเพราะจะทำให้เรซูเม่ขาดความน่าเชื่อถือ เดี๋ยวเค้าจะจับได้ว่าเตี๊ยมกันมานะ!
Tips เพิ่มพลังเรซูเม่พาร์ทไทม์ให้โดดเด่น:
- ใช้ภาษากระชับ ไม่เยิ่นเย้อ
- ใช้ Bullet Point ให้ข้อมูลอ่านง่าย
- ทุกอย่างที่ใส่ ควรมี “ความเกี่ยวข้องกับงานที่สมัคร” ให้มากที่สุด
- ใช้ฟอนต์ที่อ่านง่าย เช่น TH Sarabun New หรือ Arial
- ขนาดตัวอักษรประมาณ 12–14 pt
- สีพื้นหลังควรเรียบ ไม่ใช้สีสันฉูดฉาด
- จัดวางข้อมูลให้อ่านง่าย ไม่แน่นจนเกินไป
อย่าลืม! Part-time Resume ของคุณอาจเป็นใบเบิกทางแรกในชีวิตการทำงาน จึงควรใช้ทุกบรรทัดสื่อให้เห็นว่า
“แม้ไม่มีประสบการณ์…แต่คุณพร้อมลุยทุกโอกาสที่เข้ามา”
ตัวอย่างเรซูเม่สมัครงานพาร์ทไทม์ (Part-time Resume)
เช็คลิสต์ก่อนส่งเรซูเม่พาร์ทไทม์
แม้ว่าคุณจะเก่ง มีประสบการณ์ หรือมีความสามารถมากแค่ไหน แต่ถ้าเรซูเม่ที่ส่งไปไม่ถูกจัดทำให้น่าสนใจ หรือไม่ตรงกับที่นายจ้างอยากเห็น โอกาสถูกปัดตกตั้งแต่ยังไม่ทันเปิดอ่านก็มีสูงมากเลยนะ ถ้าเรซูเม่เราไม่ตรงใจ หรือดูไม่ดีพอ ก็อาจพลาดโอกาสดี ๆ ไปง่าย ๆ
ด้วยเหตุนี้ การรู้ว่าอะไรควรทำและอะไรไม่ควรทำในเรซูเม่จึงสำคัญมาก เพราะจะช่วยให้เราส่งเรซูเม่ที่โดดเด่น อ่านง่าย และตรงกับความต้องการของนายจ้างมากขึ้น
4 สิ่งที่ไม่ควรทำใน Part-time Resume
❌ 1.เขียนยาวเกิน 1 หน้า
เรซูเม่ไม่ต้องเล่าเรื่องชีวิตละเอียดทุกอย่าง เพราะคนที่อ่านมีเวลาจำกัด ถ้าเขียนยาวเกินไป ข้อมูลสำคัญจะถูกกลบหมด แล้วคนอ่านอาจไม่อยากอ่านจนจบ ส่งผลให้พลาดโอกาสดี ๆ ไปง่าย ๆ
❌ 2.ใช้ Emoji หรือภาษาวัยรุ่น/ภาษาวิบัติ
คำพูดแบบ “ค้าบ,” “งับ,” หรือเขียนคำผิดให้ดูน่ารักในแชทกับเพื่อน อาจดูน่ารัก แต่พอมาอยู่ในเรซูเม่กลับดูไม่มืออาชีพ และทำให้นายจ้างคิดว่าเราไม่จริงจังกับงานนี้
❌ 3.ใส่ข้อมูลเกินจริงหรือไม่ตรงกับความเป็นจริง
การใส่ประสบการณ์เกินจริง หรือบอกว่าทำได้ทุกอย่างโดยที่ไม่ได้ผ่านการลองทำจริง ๆ เป็นเรื่องอันตราย เพราะถ้านายจ้างตรวจสอบหรือถามเจาะลึก เราจะถูกจับได้ทันที และนั่นอาจทำให้เสียความน่าเชื่อถือไปตลอด
❌ 4.ลืมใส่ช่องทางติดต่อ
แม้เรซูเม่จะดีแค่ไหน แต่ถ้าไม่มีเบอร์โทร หรืออีเมลให้ติดต่อกลับ นายจ้างก็ไม่สามารถเรียกไปสัมภาษณ์ได้เลย นั่นเท่ากับว่าเราเสียโอกาสไปฟรี ๆ ดังนั้นต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าช่องทางติดต่อครบถ้วน และใช้งานได้จริง
4 สิ่งที่ควรทำใน Part-time Resume
✅1.ศึกษาข้อมูลของบริษัทที่จะสมัคร
ก่อนจะกดส่งเรซูเม่ ลองใช้เวลานิดนึงหาข้อมูลเกี่ยวกับร้านหรือบริษัทที่เราจะสมัคร เช่น เขาทำงานแบบไหน บรรยากาศเป็นยังไง หรือเขามองหาคนแบบไหน เพราะถ้าเรารู้ว่าเขาต้องการอะไร เราก็จะสามารถเขียนเรซูเม่ให้ตรงจุดมากขึ้น เหมือนเราคุยกับเขาด้วยภาษาที่เขาอยากฟัง โอกาสที่เขาจะสนใจเราก็มีมากขึ้นตามไปด้วย
✅2.เน้นประสบการณ์ที่เกี่ยวข้อง
ถึงจะเป็นงานพาร์ทไทม์ก็จริง แต่ถ้าเคยทำอะไรคล้าย ๆ กันมาก่อน อย่าลืมใส่ลงไปในเรซูเม่นะ เช่น เคยช่วยขายของที่ร้านคุณแม่ เคยรับออเดอร์ให้ร้านกาแฟ หรือเคยเป็นแอดมินเพจให้ร้านเล็ก ๆ แบบนี้ถือเป็นประสบการณ์หมดเลย หรือถ้ามีทักษะที่น่าสนใจอย่างพูดเก่ง ใช้คอมเป็น หรือมีหัวในการบริการลูกค้า ก็ให้เขียนให้เห็นชัด ๆ ไปเลย เพราะมันคือสิ่งที่นายจ้างสนใจมากกว่าคำว่า “เคยทำงานมาแล้ว” ซะอีก
✅3.ไม่เคยทำงานมาก่อนก็ไม่เป็นไร โชว์ความตั้งใจให้เขาเห็น
ถ้ายังไม่มีประสบการณ์ทำงาน ก็ไม่ต้องกังวลนะ ลองเน้นจุดแข็งอื่น ๆ ของตัวเองแทน เช่น เป็นคนขยัน ตรงต่อเวลา พร้อมเรียนรู้งานใหม่ ๆ หรือชอบช่วยเหลือและทำงานกับคนอื่นได้ดี แบบนี้ก็เป็นข้อดีที่นายจ้างมองหาเหมือนกัน บางครั้งเขาไม่ได้ต้องการคนที่เก่งที่สุด แต่อยากได้คนที่พร้อมจะเรียนรู้และตั้งใจจริงมากกว่า
✅4.ลองให้เพื่อนหรือคนในครอบครัวช่วยอ่านเรซูเม่ก่อนส่ง
บางทีเราเขียนเอง อ่านเอง มันก็อาจเผลอมองข้ามจุดเล็ก ๆ ไปได้ เช่น พิมพ์ผิด ใส่เบอร์โทรผิด หรือใช้คำซ้ำ ๆ แบบไม่รู้ตัว ลองให้เพื่อนหรือคนในบ้านช่วยดูให้ก่อนส่งอีกที บางครั้งแค่มีอีกหนึ่งคู่ตามาช่วย ก็ทำให้เรซูเม่น่าอ่านขึ้น ดูดีขึ้น และอาจช่วยให้ได้งานเร็วขึ้นด้วยนะ
สร้างเรซูเม่พาร์ทไทม์ พร้อมโอกาสได้งานไวใน 1 ชั่วโมง
เริ่มต้นหาเงินด้วยการทำงานพาร์ทไทม์ง่าย ๆ แค่มี แอป Daywork ในมือถือ
หากกำลังมองหางานและโอกาสในการสมัครงานพาร์ทไทม์ที่ง่าย สะดวก และได้เงินจริง แอป Daywork คือคำตอบ!
สมัครงานพาร์ทไทม์ กับ Daywork “แพลตฟอร์มหางานพาร์ทไทม์อันดับหนึ่ง” ที่ออกแบบมาเพื่อคนรุ่นใหม่โดยเฉพาะ ไม่ว่าคุณจะเป็นนักเรียน นักศึกษา หรือคนที่กำลังหารายได้เสริม คุณสามารถ สร้างเรซูเม่ สมัครงานพาร์ทไทม์ ได้ภายในแอป และเลือกสมัครงานที่สนใจได้ทันที ไม่ต้องพิมพ์ ไม่ต้องพกกระดาษให้ยุ่งยาก
FAQ คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการเขียน Part-time Resume
Q: เรซูเม่สมัครงานพาร์ทไทม์ต้องยาวแค่ไหน?
A: แนะนำให้เรซูเม่อยู่ในความยาวไม่เกิน 1 หน้า ใช้ภาษากระชับ และเน้นข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับงานพาร์ทไทม์ที่สมัครให้มากที่สุด
Q: ไม่มีประสบการณ์ทำงาน จะเขียน Part-time Resume ยังไงให้ดูน่าสนใจ?
A: แม้ไม่มีประสบการณ์ตรงก็สามารถใช้กิจกรรมในโรงเรียน มหาวิทยาลัย งานจิตอาสา หรือทักษะส่วนตัว เช่น การใช้โปรแกรมต่าง ๆ หรือทักษะการสื่อสาร มาแสดงศักยภาพ ให้เรซูเม่ของคุณน่าสนใจขึ้นได้เช่นกัน
Q: ต้องแนบเอกสารสมัครงานพาร์ทไทม์ อะไรบ้าง
A: เอกสารที่มักใช้ร่วมกับเรซูเม่สมัครงานพาร์ทไทม์ ได้แก่:
- รูปถ่ายสุภาพ ขนาด 1 หรือ 2 นิ้ว
- สำเนาบัตรประชาชน
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- สำเนาบัตรนักศึกษา (ถ้ามี)
- เอกสารอื่น ๆ ตามที่นายจ้างระบุ
คลิกดูการเตรียมเอกสารสมัครงานพาร์ทไทม์ เพิ่มเติม
Q: ใช้รูปแบบเรซูเม่มาตรฐานทั่วไปสมัครงานพาร์ทไทม์ได้ไหม?
A: รูปแบบเรซูเม่ทั่วไป เอามาปรับใช้ทำเรซูเม่พาร์ทไทม์ได้ได้ แต่ควรปรับให้เหมาะกับตำแหน่งที่สมัคร เช่น เพิ่มทักษะเฉพาะ หรือเน้นความยืดหยุ่นและความตั้งใจของตัวเองในการเรียนรู้งานใหม่
Q: สมัครงานพาร์ทไทม์ผ่านแอป Daywork ต้องทำยังไง?
A: สมัครงานพาร์ทไทม์ง่ายมาก! เพียงดาวน์โหลดแอป Daywork แล้วกรอก Part-time Resume ภายในแอป จากนั้นคุณสามารถเลือกงานที่สนใจและสมัครได้ทันที ไม่ต้องแนบไฟล์หรือส่งอีเมลซ้ำซ้อน 👉 คลิกดาวน์โหลดแอป Daywork
ติดตาม Daywork ได้ที่ช่องทาง
Facebook : www.facebook.com/daywork.th
Website : www.daywork.co
Linkedin : www.linkedin.com/company/daywork-thailand
Lemon8 : www.lemon8-app.com/@dayworkth